วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

ปัญญาประดิษฐ์

            ปัญญาประดิษฐ์  คือ  ศาสตร์แขนงหนึ่งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีพื้นฐานมาจากวิชา
วิทยาการคอมพิวเตอร์ ชีววิทยา  จิตวิทยา  ภาษาศาสตร์  คณิตศาสตร์ และ วิศวกรรมศาสตร์
                     ลักษณะของงานปัญญาประดิษฐ์   แยกออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1.        Cognitive Science   งานด้านนี้เน้นศึกษาว่าสมองมนุษย์ทำงานอย่างไร มนุษย์คิดและเรียนรู้อย่างไร
ประกอบด้วยระบบต่างๆ ดังต่อไปนี้
                    -          ระบบผู้เชี่ยวชาญ หรือ ระบบงานความรู้
                    -          ระบบเครือข่ายนิวตรอน   ถูกออกแบบให้เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ ระบบนี้ในปัจจุบันถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการให้คำแนะนำเพื่อให้มนุษย์เป็ผู้ตัดสินใจในที่สุด
                    -          ระบบแบ๊บเน็ต   ระบบนี้พัฒนาขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในด้านของนักเซลล์วิทยาลดลง วิธีนี้สะดวกในการตรวจสอบมะเร็งปากมดลูก เพราะทำให้นักเซลล์วิทยาสามารถใช้เวลากับแต่ละรายการ หรือตรวจได้มากขึ้น
                    -          ระบบการเรียนรู้   เป็นระบบที่สามารถพัฒนาพฤติกรรมของระบบเองด้วย
                     2.      Robotics      เป็นงานที่พัฒนาบนพื้นฐานของวิศวกรรมศาสตร์เป็นการพยายามสร้างหุ่นยนต์ให้มีความฉลาด ถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์ มีทักษะในด้าน การมองเห็น, การสัมผัส, การหยิบจับสิ่งของ, การเคลื่อนไหว,การนำทางเพื่อไปยังที่หมาย
                      3.      Natural  Interface  เป็นงานหลักที่สำคัญที่สุดของปัญญาประดิษฐ์ เน้นการพัฒนาเพื่อให้คอมพิวเตอร์และเครื่องจักรกลสื่อสารกับมนุษย์ได้รู้เรื่อง ประกอบด้วยงานด้านต่างๆดังนี้
                      -    ระบบที่มีความสามารถในการเข้าใจภาษามนุษย์
                     -    ระบบภาพเสมือนจริง

ระบบผู้เชี่ยวชาญ
          เป็นระบบที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาโดยจะเกี่ยวกับการจัดการความรู้มากกว่าสารสนเทศทั่วไป ระบบนี้จัดเป็นงานทางด้านปัญญาประดิษฐ์ที่มีการปฏิบัติและติดตั้งใช้งานมากที่สุด ระบบจะมีการโต้ตอบกับผู้ใช้ ให้ข้อแนะนำช่วยเหลือระบบนี้เป็นการจำลองความรู้ของผู้เชี่ยวชาญมาไว้ในคอมพิวเตอร์
องค์ประกอบของระบบผู้เชี่ยวชาญ  
     ประกอบด้วย2 องค์ประกอบหลักๆดังนี้
1. ฐานความรู้    ความรู้ในส่วนนี้จะรวมถึง ข้อเท็จจริงที่เป็นความรู้ทั้งหมด กฎของผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ในการตัดสินใจ
2. โปรแกรมของระบบผู้เชี่ยวชาญ    แบ่งเป็น 2 ส่วนที่สำคัญ คือ ส่วนที่ใช้ในการประมวลผลความรู้ และส่วนที่ใช้
ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้

ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System)
               กระบวนการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้กำหนดข้อมูล และสารสนเทศที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนที่ GIS เป็นระบบข้อมูลข่าวสารที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ แต่สามารถแปลความหมายเชื่อมโยง กับสภาพภูมิศาสตร์อื่นๆ สภาพท้องที่ สภาพการทำงานของระบบสัมพันธ์ กับสัดส่วนระยะทางและพื้นที่จริงบนแผนที่  ข้อมูลที่เก็บในGIS ลักษณะเป็นข้อมูลเชิงพื้นที่ ที่แสดงในรูปของภาพ แผนที่ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลเชิบรรยาย หรือฐานข้อมูล
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ 
องค์ประกอบของระบบGIS จัดแบ่งออกเป็น 5ส่วนใหญ่ๆคือ
                    1.        อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
                    2.        โปรแกรม  เช่น  โปรแกรม Arc/ Info , MapInfo
                    3.        ข้อมูล   ข้อมูลเชิงภาพ ข้อมูลเชิงอรรถธิบาย
                    4.        บุคลากร
                    5.        วิธีการหรือขั้นตอนการทำงาน
  หน้าที่หลักของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์    
              ภาระหน้าที่หลักๆของระบบสารสนเทศมีด้วยกัน5อย่าง
                    1.        การนำเข้าข้อมูล  ข้อมูลที่ได้จะต้องได้รับการแปลงให้มาอยู่ในรูปแบบของข้อมูลเชิงตัวเลขเสียก่อน
                    2.        การปรับแต่งข้อมูล
                    3.        การบริหารข้อมูล  ในระบบGIS ระบบจัดการฐานข้อมูลที่ได้รับการเชื่อถือและนิยมใช้
                      กันอย่างกว้างขวางที่สุด คือ ระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
                    4.        การเรียกค้นและวิเคราะห์ข้อมูล
                    5.        การนำเสนอข้อมูล

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์
A.I.ถูกนำมาประยุกต์เพื่อการใช้งานในหลายๆส่วน ซึ่ง จุดเด่น ของ AI คือสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มีความแม่นยำสูง และสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว
 ทางด้านการแพทย์
          มีการนำแขนกลเข้าไปช่วยการผ่าตัด ซึ่ง สามารถทำงานได้ละเอียดกว่ามนุษย์มาก และข้อดีอีกประการคือการไม่มีความวิตกกังวล เกิดขึ้นในขณะทำงานอย่างเช่นในมนุษย์ที่อาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานได้  การใช้แขนกลช่วยในการผ่าตัด เป็นการทำงานที่มีความปลอดภัยสูง และอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์จึงเป็นการร่วมงานกันอย่างดีเยี่ยมระหว่างคนกับเครื่องจักรกล
ทางด้านงานวิจัย
          ในหลายงานวิจัย เริ่มมีการใช้ A.I. เข้ามาช่วยในการดำเนินงาน เช่นการสำรวจในบริเวณพื้นที่ทีมีความเสี่ยง อย่าง ปากปล่องภูเขาๆไฟ หรือในมหาสมุทรที่มีความลึกอย่างมากก็สามารถ สามารถใช้หุ่นยนต์สำรวจลงไปทำงานแทนได้ เพราะเครื่องจักรพวกนี้มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ดีกว่ามนุษย์มาก ทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลได้ละเอียดและแม่นยำกว่ามนุษย์
ทางด้านอุตสาหกรรม
          เป็นการช่วยลดภาระทางต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก  ทั้งในงานบางประเภทที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายหรือมีความเสี่ยงสูง จนไม่ค่อยมีใครอยากทำก็สามารถใช้ หุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์มาทำงานแทนได้
 ทางด้านการบันเทิง
          มีการสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถตอบโต้กับมนุษย์ได้ เป็นสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น
ด้านทางการทหาร 
           A.I หรือปัญญาประดิษฐ์ในพวกนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้เป็น เครื่องบินไร้คนขับ  รถถังไร้คนขับ โดยมีจุดประสงค์หลักในทางด้านความมั่นคง
เขียนโดย : รุ่งนภา พุ่มแก้ว